วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

เรื่องน่ารักๆของสมเด็จพระเทพฯ‏

เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟังว่า สักประมาณ 20 ปีที่แล้ว
> ขณะที่เขากำลังเดินดูหนังสือในร้านหนังสือดวงกมล
> ที่สยามสแควร์ ก็มีนิสิตหญิงจุฬาฯ สองสามคนเดินเข้ามาในร้าน
> นิสิตคนหนึ่งใบหน้าสวยคม จัดว่าสวยน่า
> รัก แต่ใบหน้าดูคุ้นเหลือเกิน ......ทันใด!!!
>
> เขาก็เห็นคนเริ่มไหว้บ้าง ค้อมศีรษะบ้างให้แก่นิสิตคนนั้น
> แต่ก็มีเสียงเอ่ยขึ้นมาอย่างเกรงใจจากนิสิตคน> นั้นว่า
>
> “ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ วันนี้เป็นนิสิต มาหาซื้อหนังสือ
> เชิญทุกท่านตามสบายค่ะ ” ทุกคำที่เอ่ยจะมี
> คำว่า “ ค่ะ ” ตลอดแล้วก็หันไปยิ้มแบบเขินๆ กับเพื่อนทีมาด้วย
> กริยาช่างงามน่ารักเหลือเกินเพื่อนผม
> ย้ำ
>
> ทันใด นิสิตกลุ่มนั้นก็หันไปเห็นผู้อาวุโสท่านหนึ่ง
> กำลังเดินดูหนังสืออยู่ในร้านเหมือนกัน จึงเดินเข้าไปหา
> พร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสท่านนั้น และนิสิตท่านก็เป็นผู้เอ่ยทักว่า
>
> “ สวัสดีค่ะอาจารย์ มาหาซื้อหนังสือเหรอคะ ”
>
>
> ทันใดนั้น ผู้อาวุโสท่านนั้นก็สะดุ้ง กำลังจะก้มและย่อตัวลงในท่าทำความเคารพ
> แต่ความที่อยู่ในวัยชรา
> จึงไม่ค่อยถนัด พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
>
> “ อ้าว องค์หญิง กระหม่อมมาหาซื้อหนังสือ พะยะค่ะ ”
>
> ในตอนนั้น เพื่อนผมก็จำได้ขึ้นมาว่า นิสิตท่านนั้นก็คือ “ สมเด็จพระเทพฯ ”
> นั่นเอง
>
> ในตอนนั้นพระเทพฯ ก็ทรงเข้ามาประคองอาจารย์ท่านนั้น พร้อมกับรับสั่ง
>
> “ ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์ หนูกับเพื่อน มาหาซื้อหนังสือเหมือนกันค่ะ ”
>
> เพื่อนผม บอกว่า ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
> ผมรักและเทอดทูนเจ้าหญิงองค์น้อยเสมอมาด้วยความที่ท่านไม่
> ทรงถือพระองค์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
>
> ผมเคยอ่านจากหนังสือสกุลไทยช่วงตอบปัญหา....ของใครจำไม่ได้แล้ว
> มีคนเขียนไปถามเจ้าของ
> คอลัมน์ว่า ...
>
> จริงหรือเปล่าที่พระองค์เคยเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ยังเมืองทองธานี
> เพื่อเสวยร้านอาหารโต้รุ่ง
>
> ก็มีคำตอบว่า จริง
>
> พระองค์เคยเสด็จอย่างส่วนพระองค์กับคุณข้าหลวงอีก 2 คน ไม่มีองครักษ์ติดตาม คือ
>
> เสด็จยังร้านอาหารตามสั่งทั่วไปริมถนน
>
> ตอนแรกไม่มีใครจำพระองค์ได้เลย แต่มี 2 สามีภรรยาคู่หนึ่งเห็นเข้า
>
> ฝ่ายสามีบอกว่า ไม่ใช่สมเด็จพระเทพฯ หรอก
> เพราะนี่คือร้านอาหารโต้รุ่งแล้วก็ดึกมากแล้วด้วย
>
> แต่ฝ่ายภรรยาบอกว่า เหมือนมาก ก็โต้กันไปโต้กันมา จนพระองค์ทรงได้ยิน
> จึงหันพระพักตร์มาทาง 2
> สามีภรรยานี้แล้วตรัสว่า
>
> “ ใช่ แต่ขอให้ทำตัวตามสบาย ”
>
> เท่านั้นแหละครับ 2 คนนี้ก็ก้มลงกราบ จนคนอื่นๆ แปลกใจ ก็หันมามองกันหมดทั้งร้าน
>
> เจ้าของร้านกับเด็กเสิร์ฟก็เพิ่งทราบ จึงรีบเข้าไปถวายความเคารพ
>
> พวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นก็นำอาหารของร้านตนมาถวาย
>
> จนกระทั่งเสด็จกลับไป
>
> นี่แหละครับ...... เจ้าหญิงในใจประชาชนพระองค์จริงๆ จำได้ว่า
> ตอนที่พระองค์ท่านเสด็จในงาน
> concert กาชาดหลายปีแล้ว พระองค์ท่านทรงเป่า trumpet “เพลงคู่กัด”
>
> พอท่านทรงเป่าจบ คนดูก็ตบมือ
>
> ท่านก็ทรงรับสั่งว่า “ แปลกจัง ทำไมไม่มีเสียงกรี๊ดเลย ”
> คนดูก็เงียบกริบ...คงตะลึงมั้ง
>
> ท่านก็รับสั่งย้ำอีกครั้ง เท่านั้นแหละ..คนดูกรี๊ดถล่ม
> !!!!ผมเคยเข้าไปเล่นคอนเสิร์ตหน้าพระที่นั่งศาลา
> ดุสิตาลัย เมื่อสิบห้าปีก่อน พระเทพฯ ทรงประชวรหวัดเล็กน้อย
> แต่ก็ตรัสก่อนพวกผมเล่นกันว่า
>
> “ วันนี้ไม่มีเสียงกรี๊ดนะเป็นหวัด ”
>
> พอตอนเล่น ผมเลยบังอาจถวายแซวพระองค์ท่านว่า
>
> “ ในฐานะรุ่นน้องจุฬาฯ ขอพระราชทานอนุญาตเอ่ยพระนามพระองค์ว่า
> พี่น้อยก็แล้วกัน วันนี้ขอให้พี่น้อย
> หายหวัดเร็วๆ นะครับ ”
>
> คนดูในศาลาดุสิตาลัยเงียบกริบ
>
> ผมก็ชักหนาวสันหลังว่า เหิมเกริมไปหรือเปล่า
>
> เพื่อนร่วมวงรีบชิงพูดต่อว่า มหาดเล็กครับ ช่วยยิงให้ถูกคนด้วยแล้วกัน
>
> คนเลยฮากันตึง รอดไป ! มีเพลงหนึ่งชื่อ เพลงกล้วยไข่
> ผมก็แปลงเป็นว่า…….
> แปลกใจจริง พระเทพฯ ชอบอะไร พระเทพฯ ชอบกล้วยไข่ เพราะว่าพระองค์ทรงโปรด ลัล
> ลัล ลัล
> ลา ตอนไปรับพระราชทานดอกไม้จากพระหัตถ์ ผมไปยกมือไหว้ท่าน ท่านก็ตรัสย้อนผมว่า
>
> “ ใครเค้าไหว้กัน เค้าโค้งจ้ะ ”
>
> จากนั้นท่านก็ตรัสว่า
>
> “ ใครบอกฉันชอบกล้วยไข่ ฉันชอบกล้วยน้ำว้าย่ะ ”
> ผมไม่เคยลืมสักภาพเดียวเลยครับ ตอนเป็นนักเรียนแถวสามย่าน
> พระองค์ท่านเป็นนิสิตแล้ว ผมเคยแอบ
> ไปเดิน “ ส่อง ” รถพระที่นั่งซึ่งจอดอยู่หน้า หอประชุมจุฬาฯ
> เห็นมีขนมขบเคี้ยวสารพัดใส่โหลเอาไว้
> 2-3 โหล ทุกวัน
>
> ตลอด 4 ปีที่ทรงศึกษาอยู่ ผู้คนที่ต้องผ่านสัญจรแถวนั้น
> ไม่เคยต้องเดือดร้อนกับการกั้นรถขบวนเป็น
> ชั่วโมงๆ เพียงรถพระที่นั่ง 1 คัน กับรถตำรวจนำอีก 1 ที่ไม่เคยเปิดไซเรน
> ไม่เคยเปิดโทรโข่ง ไม่
> เคยฝ่าไฟแดง
>
> เห็นพวกนักการเมือง มีตำรวจนำตำรวจตาม วิ่งย้อนศร
> กั้นรถให้แซงลัดคิวแล้ว...... นึกถึงสิ่งที่
> พระองค์ปฏิบัติทุกครั้ง LONG LIVE OUR BELOVED PRINCESS



ที่มา : Forward Mail

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น