วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข้อคิดดีๆจาก พระมหาสมปอง

- นึกเสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเรา 3 ชั่วโมง
- ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่
- หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง
- ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ
- เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ
- ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”
- สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้สามารถเล่าให้มันฟังได้นะ
- อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
- เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้ง ความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
- ปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา
- ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน
- ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น
- เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้รับ ดีกว่าคนที่ได้รับเยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด
- ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองสักดอกแล้วจะรู้สึกดีขึ้น
- แอบรักใครสักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่า “ความรัก” เป็นยังไง
- ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
- พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่ม อาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่
- วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ
- รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน
- ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ
- เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียด อารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
- พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง
- โทรไปหาแฟนแล้วพูดแค่คำเดียวว่า “คิดถึง” พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่
- ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไร รอยยิ้มสามารถช่วยแก้สถานการณ์ได้
- ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง
- ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ
- จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น
- นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน
- นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย
- จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง
- อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี
- ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ
- ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้
- ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แต่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว
- รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า
- การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้จากชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้
- ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ
- หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
- คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน
- ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว
- วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ
- ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ
- ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง
- เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ
- อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง

ที่มา : forward mail

สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป

..................ไม่มีใครทำให้คนทุกคนรักเราได้.....................
.......อาจจะมีคนชอบในตัวเรา10คน แต่ก็มีคนเกลียดเรา100คน........
...............แคร์คนที่แคร์เรา ไม่แคร์คนที่ไม่แคร์เรา..............
..............มีมิตรแท้เพียงหนึ่ง ดีกว่ามีเพื่อนกินเป็น100.............


สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
เมื่อคุณชี้แจงไปแล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง “ปล่อยมันไป”

ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ“นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา” เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
(มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้ส ึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง)

ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ปล่อยมันไป”

เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ

เรามีเวลาไม่มากนักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย

ขออนุโมทนาขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณา forward mail แนะนำธรรมทานนี้ต่อ ๆ กันไป
ทางชมรมฯ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใด ๆ

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กอด

กอด คือ การดึงพลังความรักของเขาให้มาเป็นของเรา

เขียนโดย ไพลิน ถาวรวิจิตร และ GTH Team
เคยสังเกตไหม.... เวลาคุณ * " กอด " * ใคร
คุณมักซบไปทางด้านซ้ายของอีกฝ่าย
อาจเป็นเพราะนั่นคือตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจ
หากคุณ * " กอด "* เขาไว้นานเพียงพอ
จังหวะก ารเต้นของหัวใจ 2 ดวง ก็จะเปลี่ยนเป็นจังหวะเดียวกัน ในที่สุด

*" กอด "* คือเสื้อกันหนาวที่มีหัวใจ ?
*Hugging* is a jacket which has a heart.

ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะทำได้แทบทุกอย่าง แต่ข้อเสียของมันก็คือ ลุกขึ้นมา * " กอด "* คุณไม่ได้
Although a computer can do almost everything but certainly, it cannot give you *?a hug?*.

ถ้าวันหนึ่งไม่มีเธอให้ * " กอด "* แล้วฉันจะโทษใครได้ ?
If one day you are not here to *hug*, who else should I blame?

*" กอด "* คือ การแสดงความเป็นเจ้าของที่น่ารัก ?
*Hugging* is a cute expression between lovers.

แม้ชีวิตนี้คุณจะมีใครให้ *" กอด "* แม้เพียงคนเดียว นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดำรงชีวิต ?
Even though you?ve got only one person in your life to *hug*, that?s enough.

*" กอด "* คือ การได้ให้และการได้รับพร้อม ๆ กัน ?
*Hugging* is at the same time, the giving and receiving.

ในอนาคต * " กอด "* อาจหายากพอ ๆ กับเวลา ?
In the near future, *?hug?* might be as hard to find as ?time?.

*" กอด "* ทำให้รู้ว่าเมื่อหัวใจอีกดวงมาเต้นอยู่ที่อกด้านขวาบ้างจะเป็นไง ?
*Hugging* displays that ?there will be a heart beat of others which keeps beating while you hug?

เมื่อคุณถูก * " กอด "* คุณจะตัวเล็กลง ?
When you are being *hugged*, you will be smaller.

แต่เมื่อคุณ * " กอด "* คนอื่น คุณจะตัวใหญ่ขึ้น ?
BUT When you *hug* someone, you will be bigger.

*" กอด "* คือคำว่า " ฉันอยู่นี่ " ?
*Hugging* is ? I am here?.

*" กอด "* ทำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ?
*Hugg ing* displays that we are not alone in the planet.

ภาษาพูดแทนความรู้สึกได้ดี แต่สำหรับบางเวลา *" กอด "* อาจเป็นตัวช่วยที่ดีกว่า ?
Speaking is the good way of feeling communication
but sometime *?hug?* might be a better assistance.

*" กอด "* คือ การแลกเปลี่ยน " ความลับทางอารมณ์ " ระหว่างกัน ?
*Hugging* is the exchange of two people?s secret feelings and emotions.

*" กอด "* ช่วยสลายทิฐิบางอย่างในใจเรา ?
*?Hugging?* disintegrates some conviction in our minds.

เมื่อคุณกลับบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังจาก ? สวัสดี ? คือ เข้าไป * " กอด "* คนที่คุณรัก ?
When you are arrived home, thing you should do besides saying ?hello? is *hugging* the one you love.

บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าเราต้องการ * " กอด "* มากแค่ไหน จนกว่าจะได้เห็นคนอื่นเค้ากอดกัน ?
Sometime you may not realize to *hug* someone, once you observe it from others.

*" กอด "* คือ ทางสายกลางของการแสดงออกซึ่งความรัก ?
*Hugging* is a mind average of expression.

*" กอด "* คือ การเต้นรำในจังหวะเดียวกัน ?
*Hugging* is the some rhythm of heart beating.

*" กอด "* ทำให้รู้ว่ายังมีคนอ้วนกว่าเรา ?
*Hugging* defines that ?there will be someone who has more weight than you?.

สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้อง * " กอด "* ตัวเองในที่แคบ ๆ

วันนี้คุณกอดใครแล้วหรือยัง ?

ที่มา: forwardmail

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตับของคุณ‏

หวัด ดี...ฉันคือ ตับ ของคุณ ให้ฉันเล่าให้คุณฟังว่า ฉันรักคุณมาก เท่าใด 9 ข้อ


1. ฉัน สะสมธาตุเหล็ก สำรองรวมทั้ง วิตามิน และ แร่ธาตุ ต่างๆ ที่คุณต้องการ หาก ไม่มีฉัน คุณก็จะไม่มีเรี่ยวแรงที่อยู่ต่อไป
 
2. ฉัน ผลิตน้ำย่อย สำหรับย่อยอาหารให้คุณ หาก ไม่มีฉัน คุณก็สูญเสียอาหาร จนไม่มีอะไรเหลือ อยู่


3. ฉัน ทำหน้าที่ล้าง พิษของพวกสาร เคมีที่คุณมอบ ให้ฉัน ไม่ ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ เบียร์ ไวน์ ยาต่างๆ(ที่มีและไม่มีใบสั่งของแพทย์) รวม ทั้งบรรดาสิ่งผิด กฏหมายทั้งหลาย หาก ไม่มีฉันแล้ว นิสัยไม่ดีของคุณ ก็จะฆ่าคุณไปแล้ว
 
4. ฉัน เก็บพลังงาน เหมือน แบตเตอรี่ โดยสะสมน้ำตาล(คาร์โบไฮเดรท,กลูโคส และ ไขมัน)
ไว้ ให้คุณเมื่อคุณ ต้องการมัน หาก ไม่มีฉัน ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะลดลงต่ำมาก จนทำให้คุณล้มพับ ไป
5. ฉัน สร้างเลือดให้ ระบบต่างๆ ของคุณ ก่อนที่คุณจะเกิดเสียอีก หาก ไม่มีฉันแล้ว ก็ คงจะไม่มีคุณอยู่ ที่นี่
 
6. ฉัน ผลิตโปรทีนใหม่ ที่ร่างกายของ คุณต้องการ เพื่อการมี สุขภาพดีและ เจริญเติบโต
หาก ไม่มีฉันแล้ว คุณ ก็จะไม่เจริญเติบ โตอย่างที่ควร
 
7. ฉัน กลั่นกรองสาร พิษจากอากาศ ไอเสียรถยนต์ และสารเคมี ที่คุณหายใจเข้าไป
หาก ไม่มีฉันแล้ว คุณ ก็จะเหมือนถูกวาง ยาพิษโดยมลภาวะ เหล่านั้น
 
8. ฉัน ผลิตสารทำให้ เลือดแข็งตัว ถ้าคุณบังเอิญไปโดนอะไรบาด หาก ไม่มีฉันแล้ว คุณจะต้องตายเพราะเลือดไหลไม่หยุด
 
9. ฉัน คอยต่อสู้ป้องกัน ไม่ให้เชื้อโรค ต่างๆ โจมตีคุณ ไม่ว่าจะเชื้อหวัด หรือ ไข้หวัดใหญ่ อะไร ก็ตาม ฉันจะน็อคมันให้ตายหมด หรือ ไม่ก็ทำให้มันอ่อนแรงลง หาก ไม่มีฉันแล้ว คุณก็เหมือนเป้านิ่ง รอให้สารพัดโรค โจมตี
 
ดู ซิว่า ฉันรักคุณแค่ไหน.... แล้ว คุณล่ะ รักฉันบ้างไหม ?
 
ขอ ให้ฉันบอกวิธีง่ายๆ ที่จะ รัก ฉัน, ตับ ของ คุณ

อย่ากดฉัน ให้ต้องจมลงในน้ำ เบียร์ แอลกอฮอล์ หรือ ไวน์ เลย สำหรับบาง คนแล้ว เพียงแก้วเดียว ก็ทำให้ฉันเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิต
 
ระวัง บรรดา "ยา" ทั้งหลาย ยา ทุกอย่างมาจากสาร เคมี และเมื่อคุณเอามันมนผสมกันเข้า โดยไม่มีคำแนะนำ จากแพทย์ มัน ก็กลายเป็นยาพิษ ที่สามารถทำลาย ฉันได้อย่างดีที เดียวละ ฉัน เป็นแผลเป็นง่าย เมื่อเป็นแล้ว เป็นอย่างถาวรเสียด้วย บาง ครั้งยาก็เป็น สิ่งจำเป็น แต่การกินยาเกินความจำเป็น เป็นนิสัยไม่ดี บรรดา สารเคมีเหล่านั้น สามารถทำลายตับ ได้

จงระวัง บรรดากระป๋องสเปรย์ ทั้งหลาย จำไว้ว่า ฉันจะต้องล้างพิษทุกอย่างที่คุณหายใจเอาเข้าไปด้วย ดังนั้น เวลาคุณทำความสะอาด อะไรด้วยพวกสเปรย์ ต้องให้มี อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือสวมหน้ากากด้วย อันตราย เพิ่มเป็นสองเท่า สำหรับพวกสเปรย์ฆ่าแมลง ฆ่าเชื้อรา สี และสารเคมี ระวังว่า คุณหายใจเอาอะไรเข้า ไป
 
ระวังว่า อะไรโดนผิวหนังคุณ ด้วย ยาฆ่าแมลงที่คุณฉีดต้นไม้ พุ่มไม้นั้น สามารถผ่าน ผิวหนังของคุณเข้ามา โจมตีฉันได้ด้วย ป้องกันผิว หนังของคุณโดยการสวม ถุงมือ ใส่เสื้อแขนยาว หมวก หน้ากากทุกครั้ง ที่คุณฉีด ยาฆ่าแมลง 

คำเตือน
ฉัน ไม่สามารถ และ ไม่บอกคุณด้วยว่าฉันประสพกับปัญหา จน กระทั่งเกือบจะถึง วาระสุดท้ายของทั้ง ฉันและคุณเสียแล้ว จง จำไว้ว่า ฉันไม่ใช่ประเภทขี้บ่น ให้ ฉันทำงานหนักเกินไป โดยอัด ยา แอลกอฮล์ และ บรรดาอาหารขยะ สามารถ ทำร้ายฉันได้! นี่ อาจเป็นการเตือนครั้ง เดียวที่คุณจะได้รับ

โปรดฟังคำแนะนำฟรี
พา ฉันไปให้คุณหมอตรวจ การ ตรวจเลือด สามารถบอกปัญหาบางอย่างได้ ถ้า ฉันยังอ่อนนุ่ม และไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ แสดงว่าฉันยังดีอยู่ ถ้า คุณหมอสงสัย การอัล ตร้าเซาวนด์ หรือ ซีที แสกน ช่วยได้ อายุ ของฉัน กับอายุของคุณ ขึ้นอยู่กับว่า คุณดูแลฉันดีแค่ไหน
 
คราวนี้คุณรู้แล้วละซี ว่าฉันรักคุณแค่ไหน ได้โปรดดูแลฉันหน่อยด้วยความรักและผูกพัน จากเพื่อนร่วมชีวิตผู้สงบเงียบ และ คู่รักนิรันดรของ คุณตับ

ที่มา: forward mail

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หลักยึดเตือนใจที่ควรใส่ใจและนำไปปฏิบัติ
















บางครั้งการใช้ชีวิต ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เราจำเป็นต้องมีหลักยึดเตือนใจ เพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างสงบสุขและสง่างาม ไม่เว้นเเต่จะเป็นการปฏิบัติต่อคนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อน เพื่อเป็นการรักษามิตรภาพให้ยืนยาว อีกทั้งยังเป็นการคบกันด้วยความจริงใจ ช่วยเหลือกันในยามมีความทุกข์ ในยามสุขก็แบ่งปันให้กันด้วยความจริงใจ

หากใครบอกว่า โอ้โหตั้ง 100 ข้อเชียวหรอ แต่ขอบอกว่าลองศึกษาดูก่อน มันไม่มากไม่มายและยากเย็นเกินไปที่เราจะปฏิบัติเลยจริงๆ
1.เอาใจเขามาใส่ใจเรา
2.เชื่อมั่นตัวเอง
3.อย่ามองคนที่หน้าตา
4.กล้าคิด พูด และทำ
5.เมื่อมีเรื่อง จงหมั่นปรึกษาผู้อื่น
6.และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
7.อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
8.ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
9.เปิดใจให้กว้าง
10.มองการณ์ไกล
11.วางแผนอนาคต
12.อย่าโทษตัวเอง
13.มีความรับผิดชอบ
14ตอบแทนเมื่อได้รับ
15.ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้และไม่มี
16.อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด
17.คิดถึงส่วนรวมให้มาก
18.ดูแลตัวเองให้เป็น
19.รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
20.อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
21.อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว
22.จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
23.ที่ทำอยู่มีผลดี ผลเสีย มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์
24.อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก
25.ให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่น
26.อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตนเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
27.คนไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร
28.ได้หน้าอย่าลืมหลัง
29.คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อมความรู้สึก แต่จงวางแผนที่จะดูแลมันไม่ให้เสีย
30.อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ
31.อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง
32.รู้จักแบ่งเวลา และหน้าที่
33.ทำประโยขน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
34.อย่าเห็นแก่ตัว
35.อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
36.อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้
37.กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
38.เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก้อคุยกันได้
39.อย่าคิดว่าเขาไม่โทร.มา ถ้าคุณก้อไม่เคยโทร.ไป
40.จง เป็นฝ่ายให้มากกว่าเป็นฝ่ายรับ
41.ดูแลบิดามารดาให้ดี คุณมีโอกาส รีบทำซะก่อนที่จะไม่มี
42.อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมา แต่คุณสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้
43.คำพูดเมื่อพูดไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ดังนั้น คิด ก่อนพูด
44.อย่าทุ่มเทในสิ่งที่ไร้ประโยชน์
45.คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด
46.ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วไม่สามารถเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
47.หาจุดหมายให้กับชีวิต
48.เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น
49.ถ้างง เขียนหนังสือได้ แต่เขียนให้เป็นภาษา
50.วันๆหนึ่งคุณทำอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่ กิน นอน เล่น
51.ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตายแล้วค่อยช่วยหรอกนะ
52.เพื่อนคุณก็เช่นกัน อย่าปล่อยให้เขาเครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล
53.ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
54.คุณซื้อนาฬิกาได้ แต่คุณไม่สามารถซื้อเวลาได้
55.ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ถ้ามีกลับไปหาซะ
56.ตอนนี้คุณคอยใครอยู่รึเปล่า จะคอยอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ทำอะไรซะบ้าง
57.อย่ากล่าวคำขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามไปขอโทษ
58.ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ
59.ตอนนี้คนกำลังสบายอยู่ แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ หมดประโยชน์แล้วหรือ
60. ไม่ใช่ แล้วไง ต้องให้บอกต่อมั้ย
61.ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของคนอื่น
62.ตอนที่คนกำลังอ่านประโยคนี้ จงจำไว้ว่าคุณเป็นมนุษย์ และยังมีชีวิตอยู่
63.ใครเป็นคนทำให้คุณมีชีวิต ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง
64.ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกเขาว่ารักก้อเพียงพอแล้ว
65.อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน
66.ไม่มีกฏหมายข้อใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา
67.ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆมีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีมั้ย หรือดูที่ราคาขนม
68.เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต
69.อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีคนพิมพ์คนนี้อีกคน
70.อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่สุด
71.อย่าพูดว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้า งั้นคุณก็ไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน
72.เหนื่อยนักก็หยุดพักซะบ้าง
73.อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง
74.ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปอยู่ในตัวคุณ
75.คุณมองเพชรที่ความงามภายในหรือป้ายราคาภายนอก
76.ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน
77.มีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือ ลองค้นคว้าดูจะรู้
78.ลูกธนูที่ถูกปล่อยจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่เเทงมาจากข้างหลัง
79.การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด
80.ทำยังไง ต้องให้ขโมยขึ้นบ้านก่อน ถึงไปดูรั้วบ้านใช่มั้ย
81.ทำใจกับสิ่งต่างๆล่วงหน้าไว้บ้างก็ดี
82.จะยกตัวอย่าง สมมุติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่า คุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง
83.อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
84.คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก็ไม่ฟื้นมาได้ยินหรอกนะ
85.ตัวคุณมีค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรุ้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า
86.หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่รู้
87.ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิต
88.การใส่เสื้อสวยๆไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก
89.หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้
90.ลองทำอะไรบ้าๆบ้างก็ดี อย่ายึดติดนักเลย
91.ผู้พิมพ์ไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รุ้อะไรไว้บ้างก็ดี
92.สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆ ไปในชีวิตหรือเรื่องคุณเห็นว่าไม่สำคัน กลับมาดูเเลตรงนั้นบ้างก็ดี
93.อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี
94.อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้ากิน เล่นไพ่เล่น เที่ยวหญิงเที่ยว
95.ยาเสพติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด
96.อย่าทำตามเพื่อนเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากับร่างกายเรา แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน
97.ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย ผู้หญิงยังไงก้อคือผู้หญิง
98.บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเมอไป
99.ไม่มีมิตรถาวรและศัตรูที่เเท้จริง
100.จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรา รัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

ขอขอบคุณที่มาดีๆ อย่างสูง

ที่มา: forward mail

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปล่อย...เพื่ออะไรนะ?

1 ชีวิตก็มีค่า ทุกชีวิตมีความสำคัญ เรามาร่วมกันเผยแพร่และช่วยทำความเข้าใจในการทำบุญที่เราไม่เข้าใจถึงผลที่เราจะได้รับ เพราะบุญที่เรากำลังจะทำนั้นมันเป็นชีวิตของผู้อื่นที่จะได้รับความทุกขเวทนา เพื่อแลกกับความสุขใขของเราเอง
Top 5 ของสัตว์ที่นิยมปล่อย
อันดับที่ 1 ปลาไหล
อันดับที่ 2 หอยขม
อันดับที่ 3 นก
อันดับที่ 4 เต๋า
อันดับที่ 5 ปลาหมอ
บางเสี้ยวส่วนของความจริงที่ 'จุดเปลี่ยน' พบ
- ปลาไหลขนาดเล็กตัวเป็นๆ นับพับกิโลกรัมต่อวัน ถูกเบียดอัดมาในกระสอบปุ๋ยเดินทางจากเขมรสู่ประเทศไทยหลายต่อหลายทอด โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีชีวิตไปจนถึงมือคนใจบุญ
- ปลาไหลที่ปล่อยลงในน้ำลึกไหลเชี่ยว ไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้ เพราะธรรมชาติของปลาไหลต้องอยู่ในน้ำแฉะมีดินโคลนให้มุดเพื่อหลบพัก
- หอยขมที่อยู่ในดินโคลนตามธรรมชาติ เมื่อถูกเทลงสู่ก้นแม่น้ำลึกอย่างแม่น้ำเจ้าพระยา หอยก็จมน้ำตายได้เหมือนกัน
- นกกระติ๊ดจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า เพราะคนจับมาเบียดเสียดในกรงแคบ บางตัวแข้งขาหักตายคากรง ส่วนที่เหลือซึ่งบินจากไปก็บอบช้ำเกินกว่าจะรอดชีวิต และบ้างก็ไม่มีแหล่งหากินในเมือง
- เต่าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และเมื่อถูกปล่อยลงน้ำที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเกาะ เต่าก็จะต้องว่ายน้ำต่อไปจนกว่าจะขาดใจตายเพราะเหนื่อยและหมดแรง
- เต่าเป็นสัตว์ที่อายุยืนที่สุดในโลก แต่ถ้าเต่าถูกปล่อยในที่ที่แออัดน้ำเน่าเสียไม่มีที่เกาะ เต่าจะตายอย่างทรมานเพราะอาการเจ็บป่วยที่กระดองเน่าเปื่อย และจมน้ำตาย กลายเป็นสัตว์ที่น่าสงสารที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง
ทำไมการปล่อยสัตว์ในยุคสมัยนี้จึงมีบาปมากกว่าบุญ
1. เพราะปล่อยไม่ถูกที่ถูกทาง ทั้งสภาพความเป็นอยู่และศัตรูธรรมชาติ ทำให้สัตว์ที่ปล่อยไปไม่มีโอกาสรอดชีวิต
2. เพราะส่งเสริมให้มีการจับสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติอย่างปกติสุขมากักขังหน่วงเหนี่ยว ทรมาน
3. ในทุกขั้นตอนตั้งแต่การจับ กักขัง ขนส่ง และรอจำหน่าย มีสัตว์จำนวนมากต้องตายอย่างทรมานก่อนที่จะได้รับอิสรภาพ
สิ่งมีชีวิตแม้จะเล็กเท่าผุ่นละออง แต่นั่น มันก็เท่ากับ 1 ชีวิต...

ที่มา: forward mail

ขำๆ วิธีเลือกคนให้ตรงกับงาน(บริหาร)

ได้มาจากเมล์ เผยแพร่ให้พอขำๆนะอย่าคิดมาก

โห...เข้าใจคิดเนอะ ใครน้อคนแรกที่คิด

ชอบจัง อ่ะ....
วิธีเลือกคนให้ตรงกับงาน
อยากรู้ว่าพนักงานคุณเหมาะกับตำแหน่งใดกันแน่ ลองทดสอบดังนี้
1. วางอิฐ 400 ก้อนไว้ในห้อง
2. พาพนักงานเข้าไปในห้องๆ นั้น แล้วปิดประตูและหน้าต่าง
3. ปล่อยไว้อย่างนั้น 6 ชั่วโมง
4. ดูผลตามด้านล่าง:

.
.
.
.
.
.


ถ้านั่งนับอิฐยังไม่เสร็จ ให้เอาไปไว้ฝ่ายบัญชี
ถ้านับอิฐเสร็จและกำลังนับซ้ำ ให้เอาไปไว้ฝ่ายตรวจสอบ
ถ้าทำก่ออิฐรกเต็มไปหมด ให้เอาไปไว้ฝ่ายวิศวกรรม
ถ้าเรียงอิฐโดยวางแปลกๆ ดูไม่รู้เรื่อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายวางแผน
ถ้ากำลังเอาอิฐเขวี้ยงกัน ให้เอาไปไว้ฝ่ายปฏิบัติการ
ถ้ากำลังหลับ ให้เอาไปไว้ฝ่ายรักษาความปลอดภัย
ถ้าทำอิฐพัง หรือแตก ให้เอาไปไว้ฝ่ายสารสนเทศ
ถ้านั่งขี้เกียจ ไม่ทำอะไร ให้เอาไปไว้ฝ่าย HR
ถ้าบอกว่ากำลังคิดถึงวิธีการเรียงใหม่ๆ และต้องการอิฐเพิ่ม แต่อิฐยังกองอยู่แบบเดิม ให้เอาไปไว้ฝ่ายขาย
ถ้าคิดแต่จะออกไปนอกห้อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายมาเกตติ้ง
ถ้าเอาแต่เหม่อลอยออกไปนอกห้อง ให้เอาไปไว้ฝ่ายวางแผนกลยุทธ
ถ้าเอาแต่คุยกัน แต่อิฐไม่ขยับเลยสักก้อน
ก็ให้แสดงความยินดีกับ(พวก)เขา เราค้นพบ(เหล่า)ผู้บริหารแล้ว


ไชโย! 555+

ที่มา: forward mail

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อวัยวะเรา ก็ต้องตอกบัตรเข้างานนะ

01.00 น. – 03.00 น. เป็นเวลาของตับ
ขอบอกเลยว่า . . . ทุกคนควรนอนหลับพักผ่อนให้เป็นประจำในช่วงเวลานี้ให้ได้ เพราะตับจะหลั่งสาร มีราโทนิน ที่จะทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย เห็นมั้ยละว่าสำคัญแค่ไหน ที่สำคัญห้ามกินเด็ดขาดในเวลานี้เพราะจะทำให้ตับต้องทำงานหนักและเสื่อมเร็ว

03.00 น. – 05.00 น. เป็นเวลาของปอด
สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือ ตื่นนอน ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ซะหน่อย เขาบอกว่าถ้าตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณดี

05.00 น. – 7 .00 น. เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่
เพราะฉะนั้นควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าคนไหนมีโรคประจำตัวคือท้องผูกกว่าจะถ่ายแต่ละทียากเย็นเหลือเกิน แนะนำว่าให้ลองดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว น้ำ 1 แก้ว + น้ำผึ้ง 1 ช้อน + น้ำมะนาว 4-5 ลูก

07.00 น. – 09.00 น. เป็นเวลาของกระเพาะอาหาร
จึงควรกินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน เพราะถ้าปล่อยให้ท้องว่าง กระเพาะอาหารจะอ่อนแอกลายเป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ที่สำคัญจะหน้าแก่เร็วกว่าไว น่ากลัวมากๆๆ

09.00 น. – 11.00 น. เป็นเวลาของม้าม
พูดน้อย กินน้อย และไม่นอนหลับ

11.00 น. – 13.00 น. เป็นช่วงเวลาที่หัวใจทำงานหนักที่สุด
ควรทำใจให้สบาย หลีกเลี่ยงสิ่งทึ่จะทำให้เครียด พยายามไม่ใช้ความคิดหนัก ถ้าต้องเครียดกับงานตรงหน้ามากนักก็ผ่อนคลายซะบ้าง

13.00 น. – 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
งดกินอาหารทุกประเภทให้ลำไส้เล็กได้พักผ่อน

15.00 น. – 17.00 น. เป็นเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
ออกกำลังกายหรืออบตัวให้เหงื่อออก อย่ากลั้นปัสสาวะ

17.00 น. – 19.00 น. เป็นเวลาของไต
อาบน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่ควรออกกำลังกายหนัก

19.00 น. – 21.00 น. เป็นเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ควรหยุดทำงาน พักผ่อนทำสมาธิและสวดมนต์

21.00 น. – 23.00 น. เป็นเวลาของพลังงานรวม
ทำให้ร่างกายอบอุ่นนอนหลับให้ร่างกายพักผ่อนเต็มที่

23.00 น. – 01.00 น. เป็นเวลาของถุงน้ำดี
นอนหลับให้สนิท (ถ้าไม่หลับช่วงนี้มีโอกาสเกิดโรคมากมายและร่างกายจะทรุดโทรมไว)

ที่มา: forwardmail

หัวเราะซะบ้างนะ

Alert แปลว่า เตรียมพร้อม ว่องไว เตือนภัย
Red แปลว่า แดง - สีแดง
ในกองทัพ Red Alert แปลว่า แนวรบที่อันตรายมาก
ทหารหนุ่มคนหนึ่งเมื่อแต่งงานและพบว่า
เจ้าสาวมีรอบเดือนตั้งแต่คืนส่งตัวคืนแรก
เขาโทรเลขด่วนถึงกองบัญชาการใหญ่ว่า......
' แนวรบด้านหน้าเป็นเขต Red Alert ขอถอนทัพ กองบัญชาการใหญ่โทรเลขตอบกลับมาทันทีว่าให้โจมตีด้านหลัง
---------------------------------

คดีผัวยิงเมียตาย
ผู้พิพากษา : ทำไมจำเลยจึงยิงภรรยาตัวเอง
จำเลย : เพราเมียมีชู้ครับใต้เท้า
ผู้พิพากษา : ทำไมจำเลยจึงไม่ยิงชู้ แต่กลับไปยิงเมียตัวเอง
จำเลย : ข้าแต่ศาลที่เคารพ ขอใต้เท้าได้โปรดเห็นใจกระผมด้วยว่าที่ผมต้องเลือกยิงเมียผมนั้น
ผมแค่ยิงเธอเพียงคนเดียว แต่ถ้าให้ผมยิงชู้ผมก็ต้องเหนื่อยที่ต้องยิงผู้ชายอาทิตย์ละคน อาทิตย์ละคนขอรับใต้เท้า
---------------------------

ปัญหาของคุณผู้หญิง
คุณมณีมีปัญหาตอนไปพบแพทย์ เมื่อคุณหมอถามว่าเป็นอะไรเธอก็บอกว่าน้ำอะไรไม่รู้ค่ะ มันออกมา เจ็บ ๆ คัน ๆ
คุณหมอจึงให้เธอขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ แล้วหยิบถุงมือสวมแล้วเริ่มตรวจภายในคลำแล้วกดตรงโน้นตรงนี้อยู่พักใหญ่จึงถามว่ารู้สึกเป็นยังไงคุณมณีถอนหายใจอย่างมีความสุขก่อนตอบ
' อูยวิเศษมากค่ะคุณหมอ แต่อาการที่ว่า มันเกิดที่ช่องหูนะคะ
----------------------------

ควันบุหรี่ อาจ ทำให้เป็นมะเร็ง
หนุ่มคนหนึ่งอายมากที่สัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของตนเล็กผิดปกติ เล็กจนอายที่จะให้แฟนสาวเห็นพราะกลัวเธอจะทิ้งเขาไป เมื่อเห็นขนาดของมัน คืนหนึ่งขณะที่เขากับเธอพลอดรักกันอย่างมีอารมณ์ในมุมมืดสนิทแห่งหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจอาศัยความมืดช่วย ให้เธอรู้ความจริงเสียที เขารูดซิปกางเกง เอาเจ้าตัวน้อยวางบนฝ่ามือของเธอ แล้วคอยอย่างกระวนกระวายว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรแฟนสาวหันมากระซิบอย่างอ่อนหวานว่า
'ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อแต่ฉันไม่สูบบุหรี่ค่ะ
----------------------------

ใหม่ - เก่า
หญิงชราคนหนึ่งกำลังยืนรับลมอยู่บนหัวเรือเดินทะเลขนาดใหญ่เธอต้องยกสองมือขึ้นจับหมวกไว้ตลอดเวลา เนื่องจากลมพัดแรง
สักครู่สุภาพบุรุษคนหนึ่งก็เดินรี่เข้าไปหาคุณยายและกล่าวว่า
' ขอประทานโทษเถิดครับคุณยาย
ผมไม่อยากเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของคุณยายหรอกนะครับ แต่คุณยายทราบหรือเปล่าครับว่ากระโปรงคุณยายน่ะโดนลมพัดเปิดไปถึงไหนแล้ว '
' รู้สิ ยายรู้ แต่ยายต้องใช้มือทั้งสองข้างจับหมวกนี่พ่อหนุ่ม '
' แต่คุณยายครับ คุณยายก็รู้นี่ว่าคุณยายกำลังโป๊ '
คุณยายก้มมองตัวเอง แล้วเงยหน้าพูดกับชายหนุ่มว่า อะไรทั้งหลายที่พ่อหนุ่มเห็นของยายน่ะ มันอายุตั้ง 85 แล้วนะ แต่หมวกใบนี้น่ะ ยายเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้เองจะไม่ให้ยายห่วงมันได้ยังไง
------------------------

สาวคุยกับหนุ่ม :ถ้าคุณจูบฉันสักครั้งหนึ่งรับรองฉันจะเป็นของคุณตลอดไป
หนุ่ม : ขอบคุณที่เตือนครับ
---------------------------

อนงค์ : ฉันเบื่อจริง ๆ สามีฉันกลับถึงบ้านตอนตี 3 ทุกคืนเธอรู้ไหมว่าฉันจะทำยังไงดีที่จำทำให้เขากลับบ้านหัวค่ำ
นงนุช : อ๋อ สามีฉันก็เคยกลับบ้านตอนตีสามเหมือนกันพอฉันได้ยินเขาเปิดประตูบ้าน ฉันก็ตะโกนออกไปจากห้องนอนเลยว่า...... นั่นเธอเหรอสมชายพูดออกไป 2 - 3 ครั้ง.... ได้ผลเลย
อนงค์ : แล้วมันจะได้ผลยังไง
นงนุช: โอ๊ย หลังจากนั้นเขากลับบ้านเย็นทุกวัน....คือสามีของฉัน ชื่อ สมหมาย น่ะ

ที่มา: forwardmail